แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP) คืออะไร
เรียนรู้ว่าแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าสามารถรวบรวม ประสาน และเปิดใช้งานข้อมูลของคุณเพื่อให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเกี่ยวกับลูกค้าและแคมเปญของคุณได้อย่างไร
เรียนรู้ว่าแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าสามารถรวบรวม ประสาน และเปิดใช้งานข้อมูลของคุณเพื่อให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เคยมีมาก่อนเกี่ยวกับลูกค้าและแคมเปญของคุณได้อย่างไร
แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า หรือ CDP เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจดึงข้อมูลลูกค้าจากช่องทาง ระบบ หรือสตรีมข้อมูลใดๆ ก็ได้ เพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบรวมศูนย์ โดยทั่วไปเครื่องมือเหล่านี้จะมีฐานข้อมูลลูกค้าและระบบอัตโนมัติ รวมถึงทรัพยากรการจัดการสำหรับแคมเปญหลายช่องทาง การโต้ตอบกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ และข้อมูลที่เชื่อมต่อ CDP รวบรวมและรวมศูนย์ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ให้กับบริษัทต่างๆ ช่วยให้บริษัทต่างๆ ได้รู้จักกับลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่เป็นแบบเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้า
CDP มีประโยชน์ในฐานะฐานข้อมูลกลางสำหรับข้อมูลระดับผู้ใช้ โดยจะเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่โดยทั่วไปจะไม่แบ่งปันข้อมูลระหว่างกันเข้าด้วยกัน เช่น CRM, แพลตฟอร์มการตลาด, ซอฟต์แวร์บริการ และเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะทำให้คุณเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นในการเชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างง่ายดาย
ในรายงาน State of Marketing ฉบับที่ 9 นักการตลาด 72% รายงานว่าใช้ CDP ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อปรับแต่งการเข้าถึงและวัดผลความสำเร็จ ในบทความนี้ เราจะสำรวจแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต จากนั้นเราจะมาพูดคุยกันว่าเทคโนโลยีนี้สามารถขับเคลื่อนการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และองค์ประกอบอื่น ๆ ของสแตกเทคโนโลยีของคุณได้อย่างไร เพื่อช่วยให้คุณสร้างช่วงเวลาอันมหัศจรรย์แบบเรียลไทม์จากข้อมูลลูกค้า
คู่มือแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า: สารบัญ
เพื่อดูว่าแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าทำงานอย่างไร มีงานหลัก 4 งานที่ต้องทำความเข้าใจ ได้แก่ การรวบรวมข้อมูล การประสานข้อมูล การเปิดใช้งานข้อมูล และการดึงข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูล เรามาดูแต่ละงานอย่างละเอียดกัน
1. รวบรวมข้อมูลของคุณ
CDP ของคุณเป็นศูนย์กลางสำหรับข้อมูลลูกค้าทั้งหมดที่บริษัทของคุณมี เป็นที่ที่ใครก็ตามในธุรกิจของคุณสามารถค้นหาข้อมูลลูกค้าที่จัดระเบียบไว้ในที่เดียวได้
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ CDP ของคุณจะต้องระบุลูกค้าแต่ละรายโดยการรวบรวมและปะติดปะต่อข้อมูลจากแพลตฟอร์ม CRM ระบบการตลาด และสตรีมข้อมูลต่างๆ ของบริษัทเข้าด้วยกัน การรวมและรวมศูนย์ข้อมูลที่แตกต่างกันทั้งหมดนี้และระบุลูกค้าแต่ละรายตามประวัติการมีส่วนร่วมเรียกว่า "การแก้ไขข้อมูลประจำตัว"
2. ประสานข้อมูลของคุณ
หลังจากที่ CDP ของคุณรวมข้อมูลทั้งหมดของบริษัทและสร้างข้อมูลประจำตัวลูกค้าแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการแก้ไขข้อมูลประจำตัวเหล่านั้นในแหล่งที่มาและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งหมายถึงการเชื่อมโยงข้อมูลประจำตัวจากลูกค้าที่คุณรู้จัก (เช่น ที่อยู่อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์) กับข้อมูลไม่ระบุตัวตนที่ลูกค้าอาจเคยแชร์ก่อนที่จะกลายเป็นลูกค้า (เช่น คุกกี้ที่ไม่ระบุตัวตนและ ID อุปกรณ์มือถือ)
จุดประสงค์ของการระบุตัวตนข้ามอุปกรณ์คือเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของการเดินทางของลูกค้าของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดูลูกค้าและเห็นว่าการโต้ตอบของลูกค้าเริ่มต้นด้วยแคมเปญอีเมลและดำเนินต่อไปยังเว็บไซต์ ก่อนที่ลูกค้าจะแชร์ข้อมูล ดาวน์โหลดเนื้อหา หรือซื้อสินค้า
3. เปิดใช้งานข้อมูลของคุณ
เมื่อ CDP ของคุณสร้างและแก้ไขโปรไฟล์ลูกค้าแบบรวมศูนย์อย่างสมบูรณ์แล้ว CDP ก็จะเปิดใช้งานข้อมูลดังกล่าว ทำให้ทีมของคุณสามารถปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าให้เป็นแบบเฉพาะบุคคลได้แบบเรียลไทม์
การปรับแต่งให้เป็นแบบเฉพาะบุคคลนี้สามารถทำได้โดยการเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าใน CDP ของคุณกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างๆ ที่คุณใช้เพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงเครื่องมือส่งอีเมล เวิร์กโฟลว์ที่เป็นระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ แพลตฟอร์มด้านความต้องการ และระบบจัดการเนื้อหา
4. ดึงข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูล
ด้วยโปรไฟล์ลูกค้าแบบรวมศูนย์ที่ CDP ของคุณสร้างขึ้น ช่วยให้สามารถเห็นแคตตาล็อกข้อมูลทั้งหมดที่ลูกค้าแต่ละรายแบ่งปันและติดตามการเดินทางของลูกค้าทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าและแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็นกลุ่มต่างๆ รวมถึงสร้างกลุ่มเป้าหมายและตัวตนที่คล้ายกันเพื่อช่วยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
เนื่องจาก CDP ของคุณรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมในการพิสูจน์การเข้าถึง รายได้ และ ROI ทางการตลาดจากความพยายามของคุณ
เนื่องจากเทคโนโลยีการตลาดประเภทต่างๆ มากมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งโดยปกติแล้วแต่ละประเภทจะมีตัวย่อสามตัวอักษรเป็นของตัวเอง คุณอาจสงสัยว่า CDP ย่อมาจากอะไร
แม้ว่า CDP จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ใช่แนวคิดใหม่หมดเสียทีเดียว แต่เป็นก้าวล่าสุดในการพัฒนาวิธีการที่นักการตลาดจัดการข้อมูลลูกค้าและความสัมพันธ์กับลูกค้า
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การอัปเดตโมเดล CRM เหล่านี้ยังนำไปสู่การสร้าง CDP อีกด้วย เนื่องจาก CDP เป็นแหล่งข้อมูลทางการตลาดเพียงแหล่งเดียว จึงทำให้นักการตลาดสามารถรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าได้มากขึ้น ช่วยให้แบ่งกลุ่มลูกค้าตามแบรนด์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ก่อนการพัฒนาล่าสุดในด้าน AI ระบบอัตโนมัติ และการเรียนรู้ของกลไก การแบ่งกลุ่มในระดับนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ในปัจจุบันสิ่งนี้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าเดิมในตลาดจะมุ่งเน้นเฉพาะการตลาดและ/หรือการค้าเท่านั้น และอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการซิงค์ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าต้องการ หากคุณกำหนดการมีส่วนร่วมโดยอิงตามข้อมูลที่บริษัทของคุณทราบเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมที่ล่าช้าเพียงบางส่วนเท่านั้น ลูกค้าคาดหวังว่าทุกประสบการณ์จะเชื่อมต่อและอัปเดตแบบเรียลไทม์ เมื่อไม่เป็นอย่างนั้น ลูกค้าก็ะจผิดหวัง
ความสามารถของแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า ทำให้นักการตลาดสามารถดูว่าลูกค้ารายหนึ่งโต้ตอบกับแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทอย่างไร และระบุโอกาสสำหรับประสบการณ์ที่ปรับแต่งมากขึ้นและการขายแบบไขว้
นอกเหนือจากการแบ่งกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังมีเหตุผลสำคัญ 3 ประการที่บริษัทของคุณอาจต้องการ CDP ได้แก่ การระงับ การปรับแต่งเฉพาะบุคคล และข้อมูลเชิงลึก
การระงับบัญชี
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งที่ธุรกิจสามารถทำได้ด้วยข้อมูล คือการระบุลูกค้าไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย สิ่งนี้เรียกว่าการระงับ และเป็นส่วนหนึ่งของการมอบประสบการณ์การเดินทางที่เป็นแบบเฉพาะบุคคลสำหรับลูกค้าอย่างแท้จริง
เมื่อโปรไฟล์แบบรวมศูนย์ของลูกค้าใน CDP ของคุณมีข้อมูลการตลาดและการซื้อ คุณสามารถระงับโฆษณาต่อลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้วได้ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเห็นโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนและคุณสามารถปรับงบประมาณของคุณให้เหมาะสมได้โดยการส่งโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่โดยตรง
การปรับการตลาดให้เหมาะสม
เราทุกคนเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว ที่บางครั้งลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ ดูสินค้าเพียงไม่กี่รายการ จากนั้นก็ออกไป CDP สามารถเพิ่มการเยี่ยมชมนั้นลงในโปรไฟล์แบบรวมศูนย์ของลูกค้าได้ ทำให้คุณสามารถติดตามข้อเสนอแบบเฉพาะบุคคลผ่านช่องทางโปรดของลูกค้าเอง ไม่ว่าจะเป็นอีเมลหรือการแจ้งเตือนแบบพุช
ลูกค้าที่เห็นเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของตนเองนั้นมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้นถึง 5 เท่า ดังนั้นการปรับแต่งผ่าน CDP จึงสามารถนำมาซึ่งผลตอบแทนอันคุ้มค่าได้อย่างมาก
ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า
CDP รวบรวมข้อมูลลูกค้าและการวิเคราะห์ทั้งหมดของบริษัทของคุณเข้าไว้ด้วยกัน และทำให้ทุกทีมของคุณสามารถเข้าถึงได้ ช่วยทำลายกำแพงและสร้างโอกาสในการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก มุมมองของการโต้ตอบของลูกค้าแต่ละรายที่เชื่อมโยงกับข้อมูลอีคอมเมิร์ซ การเยี่ยมชมเว็บไซต์ และอื่นๆ ทำให้ทุกคนในฝ่ายการตลาด ฝ่ายขาย ฝ่ายบริการ และทีมอื่นๆ ทั้งหมดสามารถเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละรายมากขึ้น และมอบการมีส่วนร่วมที่เป็นแบบเฉพาะบุคคลและเกี่ยวข้องมากขึ้น
ลงทะเบียนรับข่าวสารด้านการตลาดรายเดือนเพื่อรับผลการวิจัยล่าสุด ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม และข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์ที่ส่งตรงไปยังกล่องข้อความของคุณ
CDP สามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ จัดการกับสาเหตุหลักของปัญหาทางการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในแต่ละวันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี ความท้าทายหลัก 3 ประการที่ CDP สามารถช่วยแก้ไขได้
ข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบ
เมื่อข้อมูลของคุณไม่มีการเชื่อมต่อ การทำความเข้าใจลูกค้าและสร้างการเชื่อมต่อที่มีความหมายกับลูกค้าก็จะยากขึ้น เนื่องจากจำนวนแหล่งข้อมูลที่บริษัทต่างๆ ใช้เพิ่มมากขึ้น การจำเป็นต้องมี CDP เป็นแหล่งข้อมูลที่แท้จริงเพียงแหล่งเดียวเพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกันจึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย การบูรณาการแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกันของคุณผ่าน CDP ทำให้สามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้อย่างง่ายดายทุกเมื่อ
ข้อมูลระบุตัวตนของลูกค้า
มีนักการตลาดเพียง 1 ใน 3 รายเท่านั้นที่ระบุว่าพอใจกับความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลประจำตัวลูกค้าในแหล่งข้อมูลทั้งหมดที่แตกต่างกัน เนื่องจาก CDP ที่เป็นศูนย์กลางสำหรับข้อมูลลูกค้าของคุณสามารถแก้ไขปัญหาการระบุตัวตนของลูกค้าได้อย่างง่ายดาย โดยรวบรวมข้อมูลหลายแหล่งเข้าด้วยกันเพื่อสร้างโปรไฟล์แบบรวมศูนย์สำหรับลูกค้าแต่ละราย
การแบ่งกลุ่ม
การจัดระเบียบข้อมูลของคุณและการรวมศูนย์โปรไฟล์ข้อมูลประจำตัวลูกค้าถือเป็นขั้นตอนแรกสู่การแบ่งกลุ่มและการกำหนดเป้าหมายที่ดีขึ้น จากนั้น CDP ที่ดีจะแสดงคุณลักษณะที่มีร่วมกันในหมู่ลูกค้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้การแบ่งกลุ่มเป้าหมายและส่งมอบการมีส่วนร่วมแบบเฉพาะบุคคลให้กับทุกคนเป็นเรื่องง่าย
CDP คือวิวัฒนาการของโซลูชันการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลแบบเรียลไทม์ของทีมดิจิทัลในปัจจุบัน ในขณะที่ CRM คือบันทึกข้อมูลลูกค้าที่รู้จักอยู่แล้ว
จุดประสงค์และการมุ่งเน้น
การรวบรวมและการรวมศูนย์ข้อมูล
ขอบเขตของข้อมูล
มีโซลูชัน CDP ที่แตกต่างกันหลายร้อยโซลูชันในตลาด แต่ความแตกต่างระหว่างโซลูชันส่วนใหญ่นั้นสรุปได้เป็น 2 ด้านหลักๆ ได้แก่ ข้อมูลเชิงลึกและการมีส่วนร่วม
โซลูชันซอฟต์แวร์ CDP ข้อมูลเชิงลึก จะบูรณาการและจัดการข้อมูลลูกค้าจากระบบต่างๆ ของบริษัทคุณ แล้วจึงนำไปวิเคราะห์และเปิดใช้งานในท้ายที่สุดเพื่อให้มุมมองเดียวของลูกค้าแต่ละราย
โซลูชันซอฟต์แวร์ CDP การมีส่วนร่วม จะใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อขับเคลื่อนการปรับแต่งเฉพาะบุคคลและการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์บนแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น เว็บไซต์และแอปมือถือ
ในการเลือก CDP ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทของคุณควรพิจารณาว่า CDP ข้อมูลเชิงลึกหรือ CDP การมีส่วนร่วมที่จะเหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด และค้นหาข้อมูลตัวเลือก CDP สัก 2-3 ตัวที่มีทั้งสองแบบ
ลองพิจารณาคำถามเหล่านี้เพื่อจำกัดตัวเลือกซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดให้แคบลง ก็อาจช่วยคุณได้เช่นกัน
เนื่องจาก CDP ทำให้การจัดการข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องง่าย จึงสามารถเพิ่มความสำเร็จทางการตลาดได้หลายวิธี
ตัวอย่างเช่น เครือร้านสะดวกซื้อและอาหารจานด่วนแห่งหนึ่งในแถบมิดเวสต์ต้องการมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่เป็นแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้นให้กับลูกค้า บริษัทรู้ว่าลูกค้าต้องการการมีส่วนร่วมที่เกี่ยวข้องมากขึ้น และสิ่งสำคัญคือการแสดงให้เห็นว่าแบรนด์และพนักงานมีความเป็นมิตรและเชื่อมโยงกันได้อย่างไร
หลังจากเปิดตัวโปรแกรมสะสมคะแนนและมีลูกค้าใช้งานจริง 2.5 ล้านราย ธุรกิจก็เริ่มใช้ CDP เพื่อให้จัดการข้อมูลลูกค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ก่อนที่จะมีการเพิ่ม CDP เข้าไป การติดต่อกับลูกค้าที่หายไปและการระงับการสื่อสารทางอีเมลที่ไม่เกี่ยวข้องนั้นเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตาม งานที่เคยยากเหล่านี้กลายเป็นเรื่องง่ายเมื่อข้อมูลทั้งหมดถูกนำมารวมกันด้วย CDP
ข้อมูลลูกค้าใน CDP ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งภาพฮีโร่ในอีเมลการตลาดแต่ละฉบับด้วยพิซซ่าที่ลูกค้าซื้อล่าสุดได้ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยที่ส่งผลให้มีอัตราคอนเวอร์ชันจากพิซซ่าเพียงอย่างเดียวเพิ่มขึ้น 16%
ในการก้าวไปข้างหน้า แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าจะต้องเปิดใช้งานข้อมูลให้กับทีมทั้งหมดของคุณ เพื่อขับเคลื่อนกระบวนการทางธุรกิจแบบเรียลไทม์
แม้ว่าบริษัทหลายแห่งจะได้ดำเนินขั้นตอนแรกๆ ในการรวมข้อมูลของตนไว้ที่ศูนย์กลางแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถนำข้อมูลนั้นมาใช้เพื่อขับเคลื่อน AI และขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจได้
นั่นเป็นเพราะการรวมข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลางยังไม่เพียงพอ เนื่องจากข้อมูลอาจยังคงติดอยู่และไม่มีการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันทางธุรกิจที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับลูกค้า
แน่นอนว่าสิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับนักการตลาด แต่ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับทีมงานส่วนหน้าในธุรกิจใดๆ ก็ตามที่ได้รับประโยชน์จากการมีข้อมูลที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและข้อมูลเชิงลึกจาก AI เช่น พนักงานขาย ตัวแทนบริการ ผู้ค้า นั่นคือเหตุผลที่เราต้องนิยามแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าขึ้นใหม่ สิ่งที่เราต้องการในโลกยุคปัจจุบัน คือแพลตฟอร์มข้อมูลบริษัทที่จะช่วยให้ทีมการตลาด ทีมขาย ทีมบริการ และการค้าทำงานร่วมกันเพื่อมอบประสบการณ์ที่เชื่อมต่อถึงกันและเป็นแบบเฉพาะบุคคลอย่างยิ่ง
เข้าสู่ Data Cloud Data Cloud รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของบริษัทไว้บน Einstein 1 Platform ของ Salesforce เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในแอปพลิเคชันที่นักการตลาด พนักงานขาย พนักงานบริการ และอื่นๆ ใช้งานเป็นประจำทุกวัน
Data Cloud ไม่เพียงแต่มอบสิทธิประโยชน์แบบดั้งเดิมของ CDP เท่านั้น แต่ยังมอบโซลูชันข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับทีมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอื่นๆ เช่น การขาย การบริการ และการค้า ช่วยให้สมาชิกทำให้เวิร์กโฟลว์เป็นระบบอัตโนมัติ ปรับแต่งการโต้ตอบกับลูกค้าให้เป็นแบบเฉพาะบุคคล และทำงานได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วย AI
Data Cloud ช่วยแก้ปัญหากรณีการใช้งานทางธุรกิจตลอดวงจรชีวิตของลูกค้า โดยทำให้ข้อมูลขององค์กรเข้าถึงและดำเนินการได้ง่าย ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากข้อมูลที่มีอยู่และการลงทุนด้าน AI (เช่น Snowflake, CRM)
ตัวอย่างเช่น:
ธุรกิจในปัจจุบันต้องการโซลูชันการจัดการข้อมูลที่ทำให้ข้อมูลที่มีมีความซับซ้อนจำนวนมากสามารถใช้งานและเข้าใจได้ง่าย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าจึงมีนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องและจะคงอยู่ต่อไป
ในปัจจุบันและอนาคต บริษัทที่ให้ความสำคัญกับดิจิทัลเป็นอันดับแรกจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ที่ใช้งานง่ายพร้อมแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงแหล่งเดียว เพื่อช่วยแนะนำการโต้ตอบกับลูกค้าทุกครั้ง ด้วยความสามารถในการรู้จักลูกค้าของคุณได้อย่างแท้จริงและปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าแบบเรียลไทม์จากทุกที่ CDP จึงเป็นส่วนสำคัญของชุดเครื่องมือของธุรกิจยุคใหม่
ด้วยการปลดล็อกพลังที่แท้จริงของข้อมูลลูกค้า (และทำให้เข้าถึงและจัดการได้ง่าย) คุณสามารถให้ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่คุณทำทั่วทั้งองค์กรคุณ ไม่ว่าจะเป็นการตลาดหรือด้านอื่นๆ
ดูว่าข้อมูลลูกค้าช่วยทำให้จำนวนกลุ่มเป้าหมายและธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างไร
แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า (CDP) คือซอฟต์แวร์ที่รวบรวมและรวมศูนย์ข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่างๆ เพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบรวมศูนย์เพียงหนึ่งดียว จากนั้นจะใช้โปรไฟล์นี้สำหรับการปรับการตลาดให้เหมาะสมและการมีส่วนร่วมกับลูกค้า
CDP มอบแหล่งข้อมูลความจริงเพียงแหล่งเดียวสำหรับข้อมูลลูกค้า ช่วยให้ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น ปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้า และแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการกำกับดูแลข้อมูลและปฏิบัติตามข้อบังคับอีกด้วย
CDP รวบรวมข้อมูลหลากหลายประเภท รวมถึงข้อมูลธุรกรรม ข้อมูลพฤติกรรม (เช่น การคลิกเว็บไซต์) ข้อมูลประชากร และการโต้ตอบบนโซเชียลมีเดีย ดึงข้อมูลจากทั้งแหล่งข้อมูลออนไลน์และออฟไลน์
CDP จะให้ภาพรวมที่สมบูรณ์ของการเดินทางและความต้องการของลูกค้าโดยการรวมข้อมูลไว้ในโปรไฟล์ลูกค้าเดียว นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและส่งข้อความที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลผ่านช่องทางต่างๆ
ระบบ CRM (การจัดการลูกค้าสัมพันธ์) ทำหน้าที่จัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าและกิจกรรมการขายที่มีอยู่ ส่วน CDP จะรวบรวมและรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกแหล่งเพื่อสร้างโปรไฟล์ที่สมบูรณ์และดำเนินการได้สำหรับการตลาดและการปรับแต่งเฉพาะบุคคล