การสร้างลูกค้าเป้าหมาย: คู่มือฉบับสมบูรณ์
เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานของการสร้างลูกค้าเป้าหมาย คุณก็จะสามารถเปลี่ยนความสนใจให้กลายเป็นยอดขายได้ นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้
เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานของการสร้างลูกค้าเป้าหมาย คุณก็จะสามารถเปลี่ยนความสนใจให้กลายเป็นยอดขายได้ นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้
ในโลกดิจิทัลปัจจุบัน ผู้คนถูกถาโถมด้วยข้อความและข้อเสนอมากมาย หากต้องการโดดเด่น ธุรกิจจำเป็นต้องดึงดูดความสนใจและสร้างความสนใจอย่างแท้จริงในผลิตภัณฑ์และบริการของตน
เป้าหมายของการสร้างลูกค้าเป้าหมายคือการสร้างความสนใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่สุดจะนำไปสู่การขาย มาดูกันว่าการสร้างลูกค้าเป้าหมายคืออะไร ขั้นตอนที่คุณสามารถใช้เพื่อค้นหาและดูแลลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และซอฟต์แวร์การตลาดที่สามารถช่วยคุณได้
การสร้างลูกค้าเป้าหมายคือกระบวนการสร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการ แล้วเปลี่ยนความสนใจนั้นให้กลายเป็นยอดขาย การสร้างลูกค้าเป้าหมายช่วยให้วงจรการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะมุ่งเน้นไปที่ผู้ที่มีศักยภาพสูงสุดและมีมูลค่ามากที่สุด ผลลัพธ์คือความสำเร็จที่มากขึ้นทั้งในด้านการหาลูกค้าใหม่และอัตราคอนเวอร์ชัน
ลูกค้าเป้าหมายแบ่งออกเป็น 3 ประเภท:
กระบวนการสร้างลูกค้าเป้าหมายเริ่มจากการสร้างการรับรู้และความสนใจ คุณสามารถเริ่มได้จากการเผยแพร่บทความที่ให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมาย และสร้างการมีส่วนร่วมผ่านโซเชียลมีเดีย คุณจะได้ลูกค้าเป้าหมายโดยการให้พวกเขาลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร ซึ่งหมายถึงการที่บุคคลยินยอมให้ข้อมูลติดต่อเพื่อให้คุณสามารถติดต่อกลับได้ในอนาคต การเก็บข้อมูลนี้อาจมาจากการสมัครรับจดหมายข่าวทางอีเมล หรือจากเนื้อหาที่เข้าถึงได้เฉพาะผู้ลงทะเบียน เช่น สัมมนาออนไลน์ อีเวนต์เสมือนจริง แชตสด เอกสารไวท์เปเปอร์ หรืออีบุ๊ก
เมื่อคุณได้ลูกค้าเป้าหมายแล้ว คุณสามารถใช้ข้อมูลติดต่อเหล่านั้นเพื่อสร้างการสื่อสารเฉพาะบุคคลและทำโปรโมชั่นที่ตรงเป้าหมายได้
เมื่อคุณเข้าใจการสร้างลูกค้าเป้าหมายมากขึ้นแล้ว คำถามต่อมาคือ: จะทำอย่างไรให้ผู้คนเปลี่ยนจากผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าไปเป็นผู้ซื้อจริง เริ่มต้นด้วยการสร้าง แบ่งปัน และทดสอบเนื้อหาที่สามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้
ทุกอย่างเริ่มต้นจากการสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นไปที่ปัญหาของกลุ่มเป้าหมายและวิธีที่ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณสามารถแก้ไขได้
ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจของคุณจำหน่ายซอฟต์แวร์จัดการโครงการ การสร้างวิดีโอชุดเกี่ยวกับเคล็ดลับการวางแผนโครงการ หรือกรณีศึกษาที่แสดงตัวอย่างของการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นแนวทางที่ดี ลูกค้าชื่นชอบการได้เห็นหลักฐานว่าองค์กรสามารถทำได้จริงตามที่พูดไว้ ดังนั้นจึงควรนำเสนอสิ่งนี้ให้พวกเขาเห็นอย่างชัดเจน
คุณยังจำเป็นต้องมีระบบการให้คะแนนลูกค้าเป้าหมายด้วย นี่คือขั้นตอนที่คุณจะให้คะแนนตามการดำเนินการอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น การเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ การดาวน์โหลดเอกสารไวท์เปเปอร์ หรือการมีส่วนร่วมกับหน้าที่มีมูลค่าสูงบนเว็บไซต์ของคุณ
หากลูกค้าเป้าหมายมีส่วนร่วมกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ ให้พวกเขาได้คะแนนสูงกว่าผู้ที่เพียงแค่เข้าเยี่ยมชมหน้าแรกเป็นครั้งคราว ด้วยการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป้าหมายที่มีคะแนนสูง ทีมขายสามารถมุ่งเน้นไปที่ผู้ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นลูกค้าจริงมากกว่า ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
การรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณใช้ช่องทางโซเชียลใดสำคัญมาก ถ้าคุณกำลังมองหาลูกค้า คุณต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสม คุณคงไม่ใช้ X ถ้าธุรกิจของคุณมุ่งเน้นไปที่กลุ่มที่ชอบเนื้อหาภาพใช่ไหม การใช้แพลตฟอร์มอย่าง Instagram หรือ Pinterest เพื่อแชร์เนื้อหาที่ดึงดูดสายตาจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ไม่ว่าช่องทางใด คุณต้องมีข้อความเชิญชวนให้ดำนเนิการที่ชัดเจนและน่าสนใจ พร้อมการออกแบบที่ใช้งานง่าย คุณจะได้อัตราคอนเวอร์ชันที่ดีขึ้นสำหรับบริการแบบสมัครสมาชิก หากคุณนำเสนอแบบฟอร์มสมัครที่น่าสนใจบนหน้า Landing Page ของเว็บไซต์ พร้อมคำรับรองจากลูกค้า
ใช้ การทดสอบ A/B Testing และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น พาดหัว ภาพประกอบ หรือข้อความเชิญชวนให้คลิก โดยอิงจากข้อมูลประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ (อย่าลืมว่าการทดสอบ A/B Testing คือการเปรียบเทียบตัวแปรหนึ่งในหลาย ๆ เวอร์ชัน เพื่อพิจารณาถึงเวอร์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า) สำหรับการทดสอบหัวเรื่องอีเมลการตลาดแบบ A/B ให้ดูจากอัตราการเปิดอีเมล เพื่อหาข้อความที่ให้ผลดีที่สุด สิ่งนี้จะช่วยให้คุณปรับแต่งแคมเปญอีเมลเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและอัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงการประเมินลูกค้าเป้าหมาย จะมีตัวย่อบางอย่างที่อาจดูซับซ้อน แต่การเข้าใจถึงเหตุผลที่สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของการตลาดของคุณได้อย่างมาก
สิ่งแรกที่ควรทำคือการกำหนดโปรไฟล์ลูกค้าในอุดมคติ (ICP) ของคุณ ซึ่งหมายถึงการประเมินลูกค้าเป้าหมายตามข้อมูลที่คุณมี คุณรู้ระดับความสนใจของพวกเขาหรือไม่ คุณรู้หรือไม่ว่าพวกเขามีงบประมาณหรืออำนาจในการตัดสินใจซื้อแค่ไหน
กรอบแนวคิด BANT (Budget, Authority, Need, Timing (งบประมาณ อำนาจ ความต้องการ ระยะเวลา)) มีคุณค่าเพราะช่วยกำหนดเกณฑ์หลักในการประเมินความพร้อมของลูกค้าเป้าหมาย ทำให้นักการตลาดสามารถจัดลำดับความสำคัญของผู้ที่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นลูกค้าจริงได้ดียิ่งขึ้น
สมมติว่าคุณมีบริษัทซอฟต์แวร์และคุณใช้กรอบ BANT เพื่อคัดกรองลูกค้าเป้าหมาย คำถามที่คุณควรถามตัวเองมีดังนี้
เกณฑ์เหล่านี้เปรียบเสมือนตัวกรองที่ช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าเป้าหมายที่พร้อมจะดำเนินการต่อ
การให้คะแนนลูกค้าเป้าหมายก็เป็นไปตามคำตรงตัว ด้วยการกำหนดค่าตัวเลขให้กับลูกค้าเป้าหมายตามพฤติกรรมและการมีส่วนร่วมของพวกเขา คุณสามารถจัดลำดับความสำคัญในการติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าเป้าหมายที่ดาวน์โหลดการสาธิตผลิตภัณฑ์จะได้รับคะแนนสูงกว่าผู้ที่เพียงแค่เข้าเยี่ยมชมหน้าแรกของเว็บไซต์
การให้เกรดลูกค้าเป้าหมายเป็นส่วนเสริมของการให้คะแนน โดยจะประเมินความเหมาะสมโดยรวมของลูกค้าเป้าหมายภายในตลาดเป้าหมายของคุณ ลูกค้าเป้าหมายจากองค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมที่คุณต้องการจะได้รับเกรดสูงกว่าลูกค้าเป้าหมายจากธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่เกี่ยวข้อง การใช้ทั้งระบบให้คะแนนและให้เกรดร่วมกันจะช่วยให้คุณเข้าใจคุณภาพของลูกค้าเป้าหมายได้อย่างละเอียดมากขึ้น
เมื่อคุณได้กำหนดระบบการให้คะแนนและให้เกรดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางกลยุทธ์เพื่อดูแลลูกค้าเป้าหมายของคุณ คุณสามารถทำได้โดยใช้วิธีต่อไปนี้
ลำดับอีเมลอัตโนมัติ เช่น อีเมลต้อนรับสำหรับผู้สมัครใหม่ ช่วยดูแลพวกเขาในการซื้อครั้งแรก เป้าหมายของการตลาดแบบต่อเนื่องคือการรักษาความสนใจของลูกค้าเป้าหมายไว้ในระยะยาว ด้วยการส่งข้อความที่เจาะจงและเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
ช่องทางนี้ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้าและมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับพวกเขา เช่น บริษัทซอฟต์แวร์อาจจัดสัมมนาออนไลน์ชุดหนึ่งเพื่อสาธิตฟีเจอร์ขั้นสูง พร้อมช่วงถามตอบในตอนท้าย
การปรับเนื้อหาให้ตรงกับความชอบของแต่ละคนช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ร้านค้าแฟชั่นออนไลน์อาจส่งคำแนะนำสินค้าโดยอ้างอิงจากประวัติการเข้าชมของลูกค้าเป้าหมาย
สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าลูกค้าเป้าหมายของคุณใช้ช่องทางโซเชียลใด แต่การมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์มอย่าง X, LinkedIn หรือ Facebook ก็ถือเป็นแนวทางที่ดีเสมอ ทุกครั้งที่คุณเข้าร่วมการสนทนาในวงการ แชร์เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง และตอบกลับความคิดเห็น คุณกำลังสร้างทั้งการรับรู้และความน่าเชื่อถือในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
แบบทดสอบหรือการประเมินช่วยให้ลูกค้าเป้าหมายมีส่วนร่วม พร้อมกับให้ข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับความชอบของพวกเขา ตัวอย่างเช่น แอปฟิตเนสอาจสร้างแบบทดสอบเพื่อช่วยให้ลูกค้าเป้าหมายค้นหารูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุด ขณะเดียวกันก็เก็บข้อมูลชั้นแรก เพื่อนำมาใช้ปรับแต่งเนื้อหาและโปรโมชั่นในอนาคต
ดูเหมือนว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในทุกด้านของการตลาด รวมถึงการสร้างลูกค้าเป้าหมายด้วย ต่อไปนี้คือแนวทางที่นักการตลาดใช้เพื่อยกระดับทักษะในการสร้างลูกค้าเป้าหมาย
หน้าที่ของนักการตลาดคือการเข้าใจพฤติกรรมและความชอบของลูกค้าเป้าหมาย และเครื่องมือสร้างลูกค้าเป้าหมายที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ช่วยให้ทำได้ง่ายขึ้น อัลกอริธึมการเรียนรู้ของกลไกสามารถทำนายได้ด้วยว่าลูกค้าเป้าหมายมีแนวโน้มจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาแบบใด โดยอิงจากพฤติกรรมในอดีต
ใช้ AI ในการวิเคราะห์ประวัติการซื้อของลูกค้า เพื่อแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม การวิเคราะห์นี้ช่วยให้เข้าใจความสนใจเฉพาะของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง และยังช่วยระบุแนวโน้มในวงกว้างของกลุ่มลูกค้าทั้งหมด ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะบุคคลให้แม่นยำยิ่งขึ้น
เครื่องมือการตลาดอัตโนมัติ ยังช่วยจัดการกระบวนการให้เป็นระบบอัตโนมัติ และส่งมอบเนื้อหาแบบเฉพาะบุคคลในวงกว้างได้ เมื่อคุณสร้างแคมเปญอีเมลแบบไดนามิก ระบบจะปรับเนื้อหาตามพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมายโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้การสื่อสารมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ลูกค้าจะรู้สึกพิเศษเมื่อรู้สึกว่า ธุรกิจ "มองเห็น" พวกเขา ด้วยการปรับเนื้อหาให้เป็นส่วนบุคคล คุณสามารถขยายผลได้เกินกว่าขั้นตอนการสร้างลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้าจะมีความพึงพอใจมากขึ้น และคุณมีแนวโน้มที่จะได้ธุรกิจซ้ำจากพวกเขาในอนาคต
การตลาดผ่านวิดีโอเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจ เรามักดึงดูดผู้คนได้ด้วยภาพและเสียงของวิดีโอ ดังนั้นคุณสามารถดึงดูดความสนใจได้มากขึ้นโดยการโปรโมตวิดีโอเหล่านี้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และแคมเปญอีเมลของคุณ
อย่างไรก็ตาม ต้องมั่นใจว่าเนื้อหามีความน่าสนใจ โดยการสาธิตสินค้าแบบสั้น ๆ คำรับรองจากลูกค้า หรือวิดีโอเชิงให้ความรู้สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพในการสร้างลูกค้าเป้าหมายได้ คุณจะได้ผู้สนับสนุนแบรนด์ เมื่อทำให้เนื้อหานั้นน่าจดจำ ใช้รูปแบบที่สามารถแชร์ได้ง่าย เพื่อให้ลูกค้าเป้าหมายชื่นชมในความกระชับและใช้งานง่ายของคุณ
การมีตัวชี้วัดเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือประเมินประสิทธิภาพในการสร้างลูกค้าเป้าหมายถือเป็นสิ่งสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก ตัวชี้วัดช่วยให้เข้าใจได้อย่างชัดเจนถึงแนวทางที่ได้ผล และแนวทางที่ยังต้องปรับปรุง ประการที่สอง ตัวชี้วัดเหล่านี้ช่วยสร้างความรับผิดชอบในกระบวนการทำงาน
เมื่อคุณสามารถวัดความคุ้มค่าของต้นทุนในการหาลูกค้าเป้าหมายและประเมินคุณภาพของพวกเขาได้อย่างเป็นรูปธรรม คุณจะสามารถจัดสรรงบประมาณการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้าย การมีตัวชี้วัดที่วัดผลได้ยังช่วยให้คุณสามารถตั้งเป้าหมายความก้าวหน้าอย่างเป็นจริงในระยะยาวได้อีกด้วย
ตัวชี้วัดหลักในการประเมินประสิทธิภาพการสร้างลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการสร้างลูกค้าเป้าหมายไม่ได้หมายถึงแค่การเพิ่มจำนวนลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณได้รับความเคารพจากลูกค้า พร้อมรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและต่อเนื่องในระยะยาว เมื่อคุณยึดมั่นในจรรยาบรรณการทำงานที่มีคุณภาพ นั่นแสดงถึงความมุ่งมั่นในเรื่องความโปร่งใส ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในยุคที่ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นประเด็นหลัก คุณจะได้ทั้งลูกค้าเป้าหมายเพิ่มเติมและความไว้วางใจจากพวกเขา หากคำนึงถึงแนวทางต่อไปนี้
การสร้างลูกค้าเป้าหมายคือกระบวนการสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายของคุณ แม้จะต้องใช้เวลาและความพยายามในการวางระบบให้ถูกต้อง แต่หากทำได้ดี คุณจะมีโอกาสสร้างยอดขายมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มั่นคงและมีคุณค่ามากกว่าเดิม
ต้องการหลักสูตรเร่งรัดในการสร้างลูกค้าเป้าหมาย หรืออยากทบทวนพื้นฐานอีกครั้งใช่ไหม ลองดูบทเรียนนี้บน Trailhead ซึ่งเป็นโปรแกรมเรียนรู้ฟรีจาก Salesforce
การสร้างลูกค้าเป้าหมายคือกระบวนการค้นหาและดึงดูดผู้ที่อาจกลายเป็นลูกค้าในอนาคต ส่วนสำคัญคือการเข้าใจให้ชัดเจนว่า ลูกค้าในอุดมคติของคุณคือใคร คุณยังจำเป็นต้องสร้างเนื้อหาหรือข้อเสนอที่มีคุณค่า ซึ่งทำให้ผู้คนอยากแบ่งปันข้อมูลติดต่อของตน สิ่งสำคัญคือการมีช่องทางที่ชัดเจนสำหรับให้ผู้คนลงทะเบียนหรือแสดงความสนใจ สุดท้าย คุณต้องมีระบบในการจัดระเบียบและติดตามลูกค้าเป้าหมายใหม่เหล่านี้
มีหลายวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างลูกค้าเป้าหมายได้ การทำการตลาดด้วยเนื้อหา เช่น การเขียนบล็อกหรือสร้างวิดีโอที่ให้ประโยชน์ สามารถดึงดูดผู้ที่มีความสนใจได้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็เป็นช่องทางที่ดีในการค้นหาลูกค้าเป้าหมายและสร้างการมีส่วนร่วมกับพวกเขา การจัดสัมมนาออนไลน์หรือกิจกรรมเสมือนจริงสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ แม้แต่วิธีดั้งเดิมอย่างการสร้างเครือข่ายหรือการได้รับการแนะนำจากลูกค้าปัจจุบัน ก็ยังคงเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการหาลูกค้าใหม่
การสร้างลูกค้าเป้าหมายให้ประโยชน์มากมายต่อธุรกิจ การสร้างลูกค้าเป้าหมายช่วยให้คุณค้นหาผู้คนใหม่ ๆ ที่มีความสนใจในสิ่งที่คุณขายอยู่แล้ว ทำให้การขายง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อได้รับข้อมูลการติดต่อ คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์และส่งข้อความที่ตรงเป้าหมายได้ ท้ายที่สุดแล้ว การสร้างลูกค้าเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพหมายถึงโอกาสในการขายและการเติบโตของธุรกิจที่มากขึ้น
กระบวนการสร้างลูกค้าเป้าหมายมักมีไม่กี่ขั้นตอน เริ่มจากการระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ และสิ่งที่พวกเขาต้องการ จากนั้นสร้างสิ่งที่มีคุณค่า เช่น อีบุ๊กหรือการทดลองใช้ฟรี เพื่อมอบให้พวกเขา แล้วโปรโมตข้อเสนอนั้นบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เมื่อผู้คนแสดงความสนใจ พวกเขาจะให้ข้อมูลติดต่อกลับมา สุดท้าย จะมีการส่งรายชื่อลูกค้าเป้าหมายเหล่านี้ให้ทีมขายเพื่อติดตามต่อ
ช่องทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างลูกค้าเป้าหมายจะแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ ช่องทางออนไลน์อย่างเครื่องมือค้นหา (SEO) และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมักมีประสิทธิภาพสูง การตลาดผ่านอีเมล ก็อาจมีประสิทธิภาพดีมาก โดยเฉพาะเมื่อสื่อสารกับผู้ที่มีความสนใจอยู่แล้ว สำหรับบางธุรกิจ การเข้าร่วมงานอุตสาหกรรมหรือสัมมนาออนไลน์ก็สามารถสร้างลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณค่าได้ โดยทั่วไปแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้การผสมผสานของช่องทางการตลาดหลายช่องทาง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้กว้างขึ้น
การตลาดอัตโนมัติช่วยให้กระบวนการสร้างลูกค้าเป้าหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระบบสามารถส่งอีเมลติดตามผลไปยังผู้ที่ดาวน์โหลดเนื้อหาจากเว็บไซต์ของคุณโดยอัตโนมัติ ระบบยังช่วยในการให้คะแนนลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งหมายถึงการระบุว่าลูกค้าคนใดมีความพร้อมที่จะซื้อที่สุด วิธีนี้ช่วยประหยัดเวลาของทีมงานโดยจัดการงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ ให้โดยอัตโนมัติ ด้วยการดูแลลูกค้าเป้าหมายแบบอัตโนมัติ ระบบจะช่วยผลักดันให้พวกเขาเข้าใกล้การเป็นลูกค้าจริงมากขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยการติดตามด้วยมืออย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้การสร้างลูกค้าเป้าหมายมีประสิทธิภาพ ควรมุ่งเน้นที่การมอบคุณค่าให้กับกลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่เสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อเสนอของคุณชัดเจนและเข้าถึงได้ง่าย ทดลองแนวทางต่าง ๆ เพื่อดูว่าวิธีใดเหมาะสมที่สุดกับธุรกิจของคุณ อย่าลืมติดตามผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงกระบวนการของคุณให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสุดท้าย เมื่อมีผู้แสดงความสนใจ ควรพร้อมที่จะติดตามผลอย่างรวดเร็วเสมอ