CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (คู่มือฉบับสมบูรณ์ของคุณ)

การดำเนินธุรกิจขนาดเล็กไม่ใช่เรื่องง่าย การหาโซลูชันการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ที่เหมาะสมสามารถช่วยได้อย่างมาก การค้นหา CRM ที่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กของคุณอาจใช้เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่เคยใช้มาก่อน คุณจะต้องระบุสิ่งที่คุณต้องการ เรียนรู้ว่าแพลตฟอร์มสามารถทำอะไรได้บ้าง จากนั้นจึงหาแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

CRM ที่เหมาะสมจะช่วยคุณและทีมของคุณประหยัดเวลา ให้คุณเข้าถึงข้อมูลสำคัญ และช่วยให้คุณสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า ลูกค้าเป้าหมาย และคู่ค้าของคุณได้ เราจะพูดถึงว่า CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กคืออะไร มีประโยชน์และฟีเจอร์หลักๆ อะไร รวมถึงวิธีเลือก CRM ที่เหมาะกับคุณ

สิ่งที่เราจะพูดถึง

• CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กคืออะไร
• CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กมีการทำงานอย่างไร
• ประโยชน์ของการใช้ CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
• 6 สัญญาณแสดงให้เห็นว่าธุรกิจขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้ CRM
• ฟีเจอร์ที่ต้องมองหาใน CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
• วิธีเลือก CRM ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณ
• เหตุใด Salesforce CRM จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กคือซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ธุรกิจจัดเก็บและจัดการข้อมูลติดต่อของลูกค้า ติดตามลูกค้าเป้าหมาย ค้นหาโอกาสในการขาย จัดการแคมเปญการตลาด จัดการกับความพยายามในการบริการลูกค้า และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งหมดนี้ทำได้ในแดชบอร์ดเดียว นอกจากนี้โซลูชัน CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กยังทำให้สามารถติดตามการโต้ตอบของลูกค้าได้ตลอดวงจร และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการแปลงขณะที่ธุรกิจเติบโต

โดยสรุป CRM ช่วยให้ทีมของคุณเข้าใจและนำทางการเดินทางของลูกค้าได้ดีขึ้นตั้งแต่ทันทีที่ลูกค้าเป้าหมายเรียนรู้เกี่ยวกับ SMB ของคุณ ไปจนถึงการโต้ตอบหลังจากลูกค้าซื้อสินค้าแล้ว

CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กจะรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับธุรกิจของคุณ ตัวอย่างเช่น ระบบ CRM สามารถแสดงให้คุณเห็นเมื่อลูกค้าเป้าหมายติดต่อทีมขายเป็นครั้งแรก เมื่อมีการกำหนดเวลาการสาธิต เมื่อมีการลงนามในสัญญา หรือเมื่อมีการยื่นตั๋วการสนับสนุน CRM จะรวบรวมข้อมูลจำนวนมากโดยอัตโนมัติไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจแบบ B2B หรือ B2C ก็ตาม

CRM อาจให้บริการแบบภายในองค์กร บนคลาวด์ หรือแบบผสมผสานกัน เมื่อพิจารณาถึงปริมาณและความเร็วของข้อมูลลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนมากจึงเลือกใช้โซลูชันบนคลาวด์ เหตุผลเป็นเพราะ CRM บนคลาวด์จะจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มส่วนกลางแพลตฟอร์มเดียวและสามารถปรับขนาดเพื่อรองรับข้อมูลใหม่ได้อย่างง่ายดาย

เครื่องมือ CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กมีฟีเจอร์การทำงานอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยปรับกระบวนการขายให้เหมาะสม ปรับปรุงการบริการลูกค้า และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของแคมเปญทางการตลาดของคุณ นอกจากนี้ยังรวบรวมข้อมูลข่าวกรองทางธุรกิจซึ่งจะช่วยคุณปรับแต่งการเข้าถึงลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนได้ และด้วย AI ที่ฝังอยู่ใน CRM และอิงจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ของบริษัท ธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้ประโยชน์จากข้อดีมากมายของระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

แพลตฟอร์ม CRM ทำมากกว่าแค่การติดตามลูกค้าปัจจุบันและผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมายที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงกระบวนการในการดำเนินธุรกิจขนาดเล็ก นี่คือประโยชน์ทั่วไปบางประการที่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กพบหลังจากนำ CRM มาใช้

เนื่องจากแพลตฟอร์ม CRM จะจัดเก็บรายละเอียดลูกค้าและข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และข้อมูลการเรียกเก็บเงินในฐานข้อมูลที่ค้นหาได้ ซึ่งจะช่วยให้ทีมทำงานเป็นระเบียบและป้องกันไม่ให้มีงานหลุดรอดไปได้ ทีมงานขายสามารถใช้การจัดการข้อมูลติดต่อเพื่อติดตามผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าตลอดวงจรการขาย ตั้งแต่การโต้ตอบเริ่มแรกไปจนถึงการซื้อ และทีมการตลาดสามารถใช้เพื่อประเมินผลกระทบของแคมเปญปัจจุบันและออกแบบความพยายามใหม่ๆ ได้ด้วย

บางครั้งทีมขายใช้เวลาในการจัดการบัญชีมากกว่าการติดต่อลูกค้าเป้าหมายและสร้างความสัมพันธ์ ด้วย CRM ทีมของคุณจะสามารถเน้นไปที่การปิดการขายได้ แทนที่จะต้องกรอกเอกสารและงานซ้ำๆ ซากๆ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยทีมขายสร้าง ติดตาม และกำหนดคะแนนให้ลูกค้าเป้าหมายเพื่อช่วยในการแปลงเป็นลูกค้าได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังทำให้งานที่ไม่สำคัญ เช่น การส่งการติดตามผลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับข้อมูล ทำได้ง่ายขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ

เราอยู่ในยุคของการทำตลาดลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล CRM ช่วยจัดการและทำให้แคมเปญการตลาดแบบดริปเป็นไปโดยอัตโนมัติ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเส้นทางลูกค้าของผู้ติดต่อ และติดตามแคมเปญบนโซเชียลมีเดีย ธุรกิจขนาดเล็กยังสามารถใช้ข้อมูล CRM เพื่อแจ้งการขายต่อยอด การขายพ่วง และการตลาดแบบเฉพาะบุคคล เช่น การแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องจากประวัติการซื้อ

CRM ช่วยปรับปรุงการบริการลูกค้าและทำให้เป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ความสามารถในการแก้ไขปัญหาในการติดต่อครั้งแรก การติดตามการติดต่อ และบันทึกการโทร เนื่องจากข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ในที่เดียว เอเจนต์จึงสามารถดูได้อย่างรวดเร็วว่าลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทของคุณอย่างไรในอดีต และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาในการซื้อ

การนำโซลูชัน CRM มาใช้ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจขนาดเล็กได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น การจัดเก็บข้อมูลลูกค้าบนคลาวด์จะช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายกับฐานข้อมูลภายในได้ ในขณะเดียวกัน การเข้าถึงโปรไฟล์ลูกค้าได้อย่างง่ายดายจะช่วยให้ทีมงานมีเวลาว่างมากขึ้นในการติดตามลูกค้าเป้าหมายและปิดการขาย ซึ่งเป็นการกระตุ้น ROI แทนที่จะใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง

เมื่อผู้นำธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางตอบคำถามเกี่ยวกับประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของระบบ CRM ร้อยละ 63 กล่าวว่า CRM ช่วยให้พวกเขาสามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้นหรือรวดเร็วยิ่งขึ้น

นี่คือหกสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณจำเป็นต้องมี CRM สำหรับ SMB ของคุณ

เมื่อธุรกิจขนาดเล็กเพิ่งเริ่มต้น การทราบว่าลูกค้าแต่ละรายต้องการอะไรและจะทำให้พวกเขากลับมาอีกได้อย่างไรอาจเป็นเรื่องง่าย ในช่วงแรกๆ แค่มีกระดาษโน้ต สเปรดชีต และความจำที่ดีก็อาจเพียงพอแล้ว

การพัฒนาและการเติบโตมักนำมาซึ่งความซับซ้อนจากการมีลูกค้ามากขึ้น พนักงานขายมากขึ้น และข้อมูลรายละเอียดมากขึ้น CRM สามารถช่วยจัดระเบียบทีมขายของคุณเพื่อให้มีบันทึกว่าใครเป็นผู้ติดต่อหลัก ใครเป็นคนล่าสุดที่ติดต่อกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า ประวัติผลลัพธ์เป็นอย่างไร และลูกค้าเป้าหมายอยู่ในจุดใดของช่องทางการขายในปัจจุบัน และด้วยเครื่องมือ AI ที่ฝังไว้ ทีมขายของคุณจะสามารถรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับลูกค้าเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นลูกค้าสูงสุดตามโมเดลเชิงคาดการณ์และข้อมูลที่ผ่านมา

เมื่อทีมของคุณสื่อสารกับคนนั้นคนนี้ ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะสับสนว่าเคยสนทนาเรื่องใดไปแล้วบ้าง ซึ่งอาจเกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อธุรกิจขนาดเล็กของคุณร่วมงานและขายให้กับบริษัทที่ใหญ่กว่า ครั้งสุดท้ายที่คุณคุยกับดาราในฝ่ายขายหรือเดซี่ในฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายคือเมื่อใด ทีมของคุณได้รับสัญญาที่คุณต้องดำเนินการให้คืบหน้าหรือไม่ และมีการลงนามโดยบุคคลที่เหมาะสมหรือไม่ CRM ช่วยให้ทั้งทีมของคุณเห็นการโต้ตอบทั้งหมดในที่เดียวและทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงแหล่งเดียว

ระบบ CRM มีประโยชน์อย่างยิ่งในการจัดการวงจรการขายที่ยาวนาน การบันทึกการสื่อสารที่สม่ำเสมอและปรับแต่งเป็นแบบเฉพาะบุคคลกับลูกค้าเป้าหมายนั้นต้องมีรายละเอียดอย่างมาก CRM จะรวบรวมข้อมูลลูกค้าไว้ที่ส่วนกลาง ช่วยให้ทีมขายสามารถติดตามประวัติและความคืบหน้าของลูกค้าเป้าหมายแต่ละราย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดโอกาสใดๆ การโต้ตอบอย่างต่อเนื่องและการปรับตัวทางกลยุทธ์ถือเป็นกุญแจสำคัญในการปิดข้อตกลงในวงจรการขายที่ยาวนานอย่างประสบความสำเร็จ

แพลตฟอร์ม CRM สำหรับธุรกิจขนาดเล็กสามารถช่วยคุณจัดเรียงข้อมูลจำนวนมหาศาล กำหนดลูกค้าเป้าหมายที่มีมูลค่าสูง และปรับแต่งประสบการณ์ของพวกเขาได้ แพลตฟอร์มของคุณควรช่วยให้คุณสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาด ทำให้ขั้นตอนการขายราบรื่น และให้คุณช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องมือที่มีให้ แอปของบริษัทอื่นที่ผสานรวม หรือวิธีการอื่นๆ ก็ตาม

หากธุรกิจขนาดเล็กของคุณดำเนินไปตามสัญชาตญาณมากกว่าข้อมูล คุณอาจพลาดโอกาสในการเติบโต CRM สามารถจัดทำรายงานที่ครอบคลุม เช่น การคาดการณ์ยอดขาย ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า และการวิเคราะห์การตลาด แม้ว่าการวิเคราะห์เหล่านี้จะขึ้นอยู่กับข้อมูลของคุณ แต่ CRM ก็ให้โอกาสในการใช้อัลกอริธึมและปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยให้คุณคาดการณ์แนวโน้มและวางแผนสำหรับอนาคตได้แม่นยำยิ่งขึ้น

การเติบโตเมื่อถึงจุดหนึ่งจะกลายเป็นเรื่องท้าทายหากไม่มี CRM คุณจะรู้ว่าคุณมาถึงจุดนั้นแล้วเมื่อรู้สึกว่าการติดตามประวัติการซื้อของลูกค้าหรือการจัดการข้อมูลลูกค้าเป้าหมายกลายเป็นภาระซึ่งไม่มีทางทำด้วยตนเองให้สำเร็จได้

แพลตฟอร์ม CRM ช่วยให้คุณสร้างกระบวนการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อให้ทีมของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายขณะที่คุณเติบโต ขณะเดียวกันก็มอบประสบการณ์ที่สม่ำเสมอให้กับลูกค้า

เนื่องจากมีผู้จำหน่ายและตัวเลือกซอฟต์แวร์หลายร้อยราย การเปรียบเทียบระบบ CRM จึงอาจเป็นเรื่องยาก เพื่อช่วยให้กระบวนการมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่คือรายการฟีเจอร์และฟังก์ชันหลักที่ควรพิจารณา

ระบบ CRM ได้รับการออกแบบมาให้ปรับขนาดได้ รองรับการเติบโตและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของธุรกิจของคุณตามกาลเวลา เมื่อคุณขยายการเติบโต เพิ่มลูกค้า พนักงาน และข้อมูลมากขึ้น ระบบ CRM ควรจะสามารถจัดการกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของทีมของคุณทั้งหมด (ตั้งแต่การขายไปจนถึงการบริการ) ความสามารถในการปรับขนาดช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆ รวมบริการเพิ่มเติม และเพิ่มจำนวนผู้ใช้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน

ราคา CRM ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าหรือลูกค้าที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล เมื่อเปรียบเทียบแผนการต่างๆ ให้สังเกตข้อจำกัดในการติดต่อ ซึ่งอาจนำไปสู่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเมื่อธุรกิจของคุณเติบโต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์ม CRM ของคุณช่วยให้คุณเปลี่ยนแผนหรืออัปเกรดได้อย่างง่ายดายเมื่อธุรกิจของคุณเติบโต

การเปรียบเทียบราคาไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ราคาต่ำอาจแปลเป็นมูลค่าที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไปหากไม่มีการรวมฟีเจอร์ไว้ตามค่าเริ่มต้น สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การกำหนดราคาแบบเลือกรายการสามารถลดต้นทุนได้ เนื่องจากคุณจ่ายเฉพาะฟีเจอร์ที่คุณต้องการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แผนนี้อาจสะสมอย่างรวดเร็วได้เช่นกันหากคุณเพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติมเนื่องจากความต้องการที่เปลี่ยนแปลงและการขยายการเติบโต พิจารณาข้อจำกัดของการติดต่อ คุณสมบัติที่ปรับขนาดได้ และศักยภาพในการเติบโตเมื่อตรวจสอบแผนการแข่งขัน

ความสามารถของ AI ในระบบ CRM จะช่วยเปลี่ยนแปลงวิธีที่ธุรกิจจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูง ระบบอัตโนมัติ และการโต้ตอบกับลูกค้าแบบส่วนบุคคล ฟีเจอร์เช่น แชทบอทอัตโนมัติ การวิเคราะห์ความรู้สึก และเครื่องมือแนะนำส่วนบุคคลจะช่วยยกระดับการบริการลูกค้าและการมีส่วนร่วม คุณสามารถใช้เอเจนต์ AI ในการให้คำแนะนำ CRM โดยใช้ภาษาธรรมชาติได้เช่นเดียวกับการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานด้วย AI เชิงสนทนา

เมื่อ CRM ที่มี AI ทำให้งานประจำเป็นระบบอัตโนมัติ ตัวแทนที่เป็นมนุษย์ก็จะมีเวลาให้ความสำคัญกับปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ ทำให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น

จากรายงานแนวโน้มธุรกิจขนาดเล็ก เจ้าของและผู้นำธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางร้อยละ 64 ให้คะแนนความสามารถของระบบอัตโนมัติว่ามีความสำคัญ อย่างยิ่ง แพลตฟอร์ม CRM ช่วยให้ผู้ใช้จัดการงานด้วยตนเองแบบอัตโนมัติสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีทีมงานจำกัด ตัวอย่างเช่น CRM ของคุณสามารถทำให้การตอบคำถามทั่วไปบนโซเชียลมีเดียเป็นแบบอัตโนมัติ สร้างงานเพื่อตอบสนองต่อคำขอการบริการลูกค้า หรือรับลูกค้าใหม่และมอบหมายให้กับสมาชิกในทีมขายของคุณ

ฟีเจอร์ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การผสานรวมแอป ซึ่งก็คือความสามารถในการเชื่อมต่อโซลูชัน CRM เข้ากับแอปและบริการที่มีอยู่ การผสานรวมแอปต่างๆ เข้ากับระบบ CRM ของคุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างมาก หากต้องการใช้ระบบอัตโนมัติทางการตลาด คุณจะต้องมีเครื่องมือในการจัดการแคมเปญและโน้มน้าวลูกค้าเป้าหมาย สำหรับการสนับสนุนลูกค้า จำเป็นต้องมีแอปเพื่อการติดตามตั๋วและการจัดการการบริการลูกค้าอย่างราบรื่น และสามารถเชื่อมต่อเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้การทำงานร่วมกันภายในดีขึ้นและเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

CRM บนมือถือช่วยให้ทีมของคุณเข้าสู่ระบบและจัดการข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญจากอุปกรณ์ใดก็ได้และทุกสถานที่ วิธีนี้ช่วยปรับปรุงอัตราการนำไปใช้และทำให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจจากนอกสำนักงานได้ ในความเป็นจริง ผู้นำด้านไอที 99% กล่าวว่าธุรกิจต่างๆ จะต้องรองรับอุปกรณ์พกพาจึงจะอยู่รอดได้ในอนาคต

เครื่องมือการจัดการเวิร์กโฟลว์ เช่น การแจ้งเตือนงาน การติดตามโครงการ และการอนุมัติระบบอัตโนมัติ จะทำให้กระบวนการต่างๆ ง่ายขึ้น และรับรองว่าทีมงานสามารถจัดการงานและกำหนดเวลาได้ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเปลี่ยนข้อมูลผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าจากสถานะผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าเป็นสถานะลูกค้าด้วยตนเอง เครื่องมือการจัดการเวิร์กโฟลว์สามารถทำให้กระบวนการเป็นแบบอัตโนมัติโดยอิงตามข้อกำหนดเบื้องต้นหรือการดำเนินการที่ระบุไว้

เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูล ให้พิจารณาว่าข้อมูล CRM ของคุณถูกเก็บไว้ที่ไหนและอย่างไร CRM ชั้นนำในปัจจุบันเสนอบริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์หรืออยู่บนคลาวด์ ซึ่งหมายความว่าผู้ให้บริการจะจัดเก็บข้อมูลในหลายตำแหน่งและทีมของคุณสามารถใช้เครื่องมือนี้จากทุกที่ได้ มองหาระบบที่มีการสำรองข้อมูลเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัย รวมถึงผู้ให้บริการที่จะคอยดูแลให้ธุรกิจของคุณปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องที่เรากังวลกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ทำงานกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการ CRM ของคุณใช้แนวทางเชิงรุกในการรักษาความปลอดภัยด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การเข้าถึงแบบ Zero Trust และการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย

CRM บางตัวเสนอฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซ เช่น แชทบอท การติดตามการเดินทางของลูกค้า ฟีเจอร์การรีวิวของลูกค้า และแม้กระทั่งความสามารถในการเปิดตัวและเพิ่มประสิทธิภาพหน้าอีคอมเมิร์ซ หากธุรกิจของคุณขายหรือมีแผนที่จะขายผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า CRM รองรับการเติบโตและเป้าหมายของอีคอมเมิร์ซของคุณ

ไม่มีธุรกิจใดที่เหมือนกัน ซึ่งหมายความว่า CRM ที่คุณเลือกควรสามารถปรับแต่งได้ มองหา CRM ที่สามารถปรับแต่งได้เพื่อให้คุณสามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของคุณ ตัวอย่างเช่น CRM อนุญาตให้คุณสร้างรายงานการขายที่กำหนดเองหรือเพิ่มฟิลด์ที่กำหนดเองลงในฐานข้อมูลผู้ติดต่อของคุณหรือไม่

ตอนนี้ก็ถึงเวลาหาโซลูชันที่เหมาะกับธุรกิจของคุณแล้ว ขั้นตอนเหล่านี้อาจช่วยให้คุณระบุแพลตฟอร์ม CRM ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณได้

1. ประเมินความต้องการ: ธุรกิจของคุณมีความต้องการอะไร ระบบใดที่ไม่ได้ผลสำหรับคุณ เป้าหมายในอนาคตของคุณคืออะไร จดความท้าทายทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด และความคาดหวังของคุณสำหรับ CRM
2. จัดทำรายการโปรแกรมและระบบปัจจุบันของคุณ: คุณใช้แพลตฟอร์มใดสำหรับอีเมล การตลาด การจัดการรายชื่อติดต่อ การสื่อสาร การบริการลูกค้า โซเชียลมีเดีย และการจัดการข้อมูลอยู่แล้ว ทำรายการประเมินว่าโปรแกรมปัจจุบันของคุณทำงานได้ดีแค่ไหน และตรวจสอบให้แน่ใจว่า CRM ที่คุณเลือกจะทำงานร่วมกับข้อกำหนดเหล่านี้ได้
3. กำหนดงบประมาณ: เปรียบเทียบแพลตฟอร์มตามจำนวนผู้ติดต่อที่คุณมีและฟีเจอร์ที่จะมีประโยชน์มากที่สุด พิจารณาคุณค่าของแพลตฟอร์ม CRM: ฟีเจอร์ การบริการลูกค้า และความสะดวกในการใช้งาน
4. เปรียบเทียบคุณสมบัติและทรัพยากร: ลงทุนในสิ่งที่คุณต้องการพร้อมตัวเลือกในการขยายการเติบโตในอนาคต เลือกผู้ให้บริการที่เสนอบริการนำพนักงานใหม่เข้าระบบและการสนับสนุนเพื่อใช้ประโยชน์จาก CRM ใหม่ของคุณให้ได้มากที่สุด
5. คิดถึงอนาคต: เมื่อคุณเปรียบเทียบแพลตฟอร์มต่างๆ อย่าคิดถึงแค่ความต้องการของคุณในปัจจุบันเท่านั้น ให้พิจารณาถึงความสามารถในการปรับขนาดกับผู้ใช้เพิ่มเติม ความสามารถของ AI และการจัดการการมีส่วนร่วมเมื่อคุณเติบโต
6. จำกัดรายการของคุณให้แคบลง: เริ่มต้นด้วยรายชื่อผู้ให้บริการทั้งหมด และเมื่อคุณได้จำกัดตัวเลือกลงเหลือเพียงตัวเลือกที่เหมาะกับความต้องการของคุณแล้ว ให้ขอการสาธิต ลองใช้บริการที่ดีที่สุดสำหรับคุณและทีมของคุณ

ธุรกิจขนาดเล็กต้องการโซลูชัน CRM ที่ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องที่มีอยู่ ปรับปรุงการดำเนินการขายปัจจุบัน และช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในระยะยาว Salesforce สำหรับธุรกิจขนาดเล็กสามารถช่วยให้บริษัทต่างๆ ประสบความสำเร็จได้ไม่ว่าจะมีขนาด ยอดขาย หรือกลยุทธ์ใดก็ตาม ต่อไปนี้เป็นฟีเจอร์หลักบางประการของ Salesforce CRM

• ราคา: ชุดเครื่องมือของ Salesforce มีให้เลือกใช้ทั้งแบบรุ่นและส่วนเสริม ธุรกิจขนาดเล็กมีชุดให้เลือกสองชุด เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น คุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์และเครื่องมือเพิ่มเติมตามความต้องการของคุณได้
• ความสามารถในการปรับขนาด: เริ่มต้นด้วยผู้ใช้หนึ่งรายและขยายได้ตามที่คุณต้องการ แต่โปรดจำไว้ว่าบางรุ่นมีข้อจำกัดด้านการติดต่อ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้ Marketing Cloud Account Engagement Growth สำหรับผู้ติดต่อได้สูงสุด 10,000 ราย
• การปรับแต่ง: ปรับแต่งแพลตฟอร์มให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของคุณโดยการสร้างฟิลด์ อ็อบเจ็กต์ และเวิร์กโฟลว์ที่กำหนดเองซึ่งสอดคล้องกับกระบวนการปฏิบัติงานและข้อกำหนดข้อมูล
• ระบบอัตโนมัติ: ด้วยMuleSoft ระบบอัตโนมัติ คุณสามารถทำให้เวิร์กโฟลว์ทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อให้การโต้ตอบกับลูกค้าและพนักงานรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างเวิร์กโฟลว์แบบครบวงจรด้วยระบบอัตโนมัติของกระบวนการได้จากบทความ วิดีโอ และโมดูล Trailhead ของเรา
• ปัญญาประดิษฐ์ (AI): Salesforce Artificial Intelligence ประกอบด้วยความสามารถที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งหมดที่คุณจำเป็นต้องมีซึ่งมีมาให้ใน Salesforce CRM โดยจะช่วยให้คุณสามารถสร้างประสบการณ์ AI เชิงทำนายและ AI การสร้างที่กำหนดเองได้ตามความต้องการทางธุรกิจทั้งหมดของคุณ
• การสนับสนุนลูกค้า: ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงพอร์ทัลความช่วยเหลือ Salesforce เพื่อรับการสนับสนุนในระดับต่างๆ ตั้งแต่หน้าช่วยเหลือตนเองและเอกสารประกอบ ไปจนถึงการแชท โทรศัพท์ หรือแม้แต่การขอทีมสนับสนุนโดยเฉพาะ
• เครื่องมือโซเชียลมีเดีย: ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเริ่มต้นด้วย Marketing Cloud ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถรับฟังและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ มีส่วนร่วมกับชุมชน และส่งเสริมสังคม และอื่นๆ อีกมากมาย
• การผสานรวมแอป: ตลาด AppExchange มีรายการแอปนับร้อยที่ติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและทำงานภายในผลิตภัณฑ์ Salesforce อีกวิธีหนึ่งคือการใช้ MuleSoft ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการผสานรวมและ API ที่สามารถเชื่อมต่อระบบ แอปพลิเคชัน ข้อมูล และอุปกรณ์ใดๆ เข้ากับแพลตฟอร์ม Salesforce CRM ได้
• การเข้าถึงผ่านมือถือ: ซอฟต์แวร์ Salesforce CRM มีให้ใช้งานในรูปแบบแอปมือถือสำหรับผู้ใช้ทุกคน
• ข้อกำหนดการฝึกอบรม: ไม่จำเป็นต้องมีการฝึกอบรม แต่ Salesforce เสนอ Trailhead ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่มีหัวข้อและบทเรียนที่หลากหลาย นอกจากนี้ Salesforce ยังมอบใบรับรองที่ได้รับการยอมรับในระดับอุตสาหกรรมมากมายซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือใบรับรองและองค์กรอีกด้วย

Caylin White เป็นหัวหน้าบรรณาธิการและผู้จัดการฝ่ายการเติบโตสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ Salesforce เธอเขียนเนื้อหาให้กับอุตสาหกรรม SaaS มากมาย เช่น WordPress และ BuzzSumo มาเป็นเวลา 15 ปี เธอมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO แต่มั่นใจว่าจะเพิ่มมุมมองที่เน้นที่มนุษย์ให้กับทุกๆ ชิ้นอย่างแน่นอน